เทศกาลดนตรีพัทยา (Pattaya Music Festival) เป็นเทศกาลดนตรีประจำปีงานหนึ่งในประเทสไทย จัดขึ้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี โดยได้รับการสนับสนุนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับจังหวัดชลบุรีและเมืองพัทยา จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2545 และได้รับความสำเร็จอย่างล้นหลาม จนในเมื่อปี 2548 ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นเทศกาลดนตรีพัทยานานาชาติ(Pattaya International Music Festival) เพื่อพัฒนาและยกระดับเทศกาลดนตรีพัทยาขึ้นสู่การเป็นเทศกาลดนตรีระดับสากล
    งานเทศกาลดนตรีพัทยาจะจัดในวันศุกร์ เสาร์และอาทิตย์ของสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนมีนาคมของทุกปี ภายในงานจะจัดมีการแสดงดนตรีของกลุ่มนักร้องและนักดนตรีหลากหลายแนวจากหลากหลายค่ายเพลง ทั้งศิลปินไทยและศิลปินต่างประเทศ โดยการแสดงเริ่มตั้งแต่เวลา 18.00-24.00 น. ทุกปีจะจัดเวทีการแสดงดนตรีถึง 4 เวทีตามบริเวณต่างๆของพัทยา คือ เวทีแหลมบาลีฮาย เวทีพัทยากลาง เวทีพัทยาซอย 4 และเวทีพัทยาใต้ ซึ่งแต่ละเวทีจะจัดการแสดงดนตรีในแนวที่แตกต่างกันไป ผู้ชมสามารถเลือกฟังได้ตามอัธยาศัย
    เนื่องจากเทศกาลดนตรีพัทยานานาชาติได้รับความนิยมจากคอดนตรีและนักท่องเที่ยวที่มาร่วมงานกันเป็นจำนวนมาก ทำให้ธุรกิจ Beach hotel Pattaya มียอดการสั่งห้องพักจากนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลนี้มากมาย และแทบจะไม่สามารถรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวได้เพียงพอ ซึ่งเป็นนิมิตหมายอันดีที่เศรษฐกิจการท่องเที่ยวของไทยจะมีแนวโน้มในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆทั้งในปัจจุบันและในอนาคต
 

    วิถีชีวิตของผู้คนแต่ละประเทศย่อมแตกต่างกัน ดังนั้นการเรียนรู้วิถีชีวิตของพวกเขาก่อนที่จะเดินทางไปท่องเที่ยว จึงเป็นสิ่งที่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะนั่นจะทำให้เราท่องเที่ยวในต่างแดนได้อย่างสนุกสนานและมีความสุขไปตลอดทริป ที่ฮ่องกงก็เช่นเดียวกัน วิถีชีวิตในด้านต่างๆของพวกเขามีหลายๆอย่างที่แตกต่างจากเมืองไทยโดยสิ้นเชิง ดังนั้นเราจะมาเรียนรู้ว่าเราต้องปฏิบัติตัวอย่างไรบ้างก่อนไปทัวร์ฮ่องกง จะได้ไม่ถูกคนฮ่องกงเขาตำหนิเอา

• ฮ่องกงเป็นเมืองท่องเที่ยวอย่างแท้จริง การบริการทุกสิ่งทุกอย่างตีค่าเป็นราคาทั้งหมด แม้ว่าการบริการนั้นน่าจะเป็นน้ำใจเล็กๆน้อยๆที่น่าจะทำด้วยความเต็มใจก็ตาม ฉะนั้นแล้วให้เตรียมทิปและสินน้ำใจเอาไว้เป็นดีที่สุด
• ฮ่องกงใช้ระบบปลั๊กสามขาเท่านั้น ดังนั้นหากคุณไปทัวร์ฮ่องกงแล้วจำเป็นต้องใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าควรเตรียมปลั๊ก 2 ตาไป ให้นำเครื่อง adaptor ไปด้วย จะได้ไม่พาเครื่องใช้ไฟฟ้านั้นมาหนักเปล่าๆ
• ค่าโดยสารสาธารณะทุกอย่างของฮ่องกงค่อนข้างแพง ดังนั้นควรวางแผนเส้เนทางการเดินทางให้ดีเสียก่อน เพื่อจะได้ไม่เปลืองค่ารถมาก
• เวลาสำหรับเช็คเอ้าท์ในฮ่องกงต่างจากของไทยนิดหนึ่งตรงที่ว่า ทุกที่ไม่ได้ให้เช็คเอ้าท์ก่อนเที่ยงหลายๆที่ก็สามารถเช็คเอ้าท์ได้ก่อนบ่ายสอง ว้าว!ที่เมืองไทยน่าจะเป็นอย่างนี้บ้าง
• ร้านอาหารในฮ่องกงไม่มีน้ำดื่มเย็นๆให้คุณดื่มดับร้อนดับกระหาย มีแต่น้ำชาร้อนๆให้คุณยกจิบยกซดเท่านั้น
• ชาวฮ่องกง”บ้าฮวงจุ้ย”เอามากๆ ซึ่งคุณสามารถพบเห็นได้จากทุกสิ่งทุกอย่างบนเกาะแห่งนี้ เช่น สถาปัตยกรรม รูปทรงของสถานที่ที่แปลกตา แฝงไปด้วยสัญลักษณ์และความเชื่อเรื่องโชคลางเต็มไปหมด ก็อย่าเพิ่งเหนื่อยใจไปซะก่อน

                ลูเซิร์น (Lucerne) เมืองทางเหนือตอนกลางของสวิตเซอร์แลนด์ แม้เป็นเมืองเล็กๆ แต่ก็เป็นเมืองที่แสนอบอุ่น น่ารักและโรแมนติกที่สุด ด้วยเสน่ห์ของเมืองนี้ทำให้เมืองลูเซิร์นปัจจุบันกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เจริญขึ้นทุกวันๆ เพราะมีนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศต่างเดินทางมาสัมผัสความอบอุ่น น่ารักและโรแมนติก ณ เมืองแห่งนี้กันมากมาย

                ไฮไลท์ของเมืองลูเซิร์นที่เมื่อมาทัวร์ยุโรปแล้วไม่ควรพลาด มี 2 แห่ง สะพานไม้ชาเปล (Chapel bridge) และ อนุสาวรีย์รูปสิงโต (Lion Monument)

                สะพานไม้ชาเปล (Chapel bridge) สร้างขึ้นเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 14 เพื่อทอดข้ามแม่น้ำรอยส์ สะพานไม้ชาเปลเป็นสะพานที่เก่าแก่ที่สุดของยุโรป มีอายุร่วม600 ปี มีหลังคาแบบโบราณมุงไว้ ตัวสะพานเชื่อมต่อไปยังป้อมแปดเหลี่ยมกลางน้ำ ที่จั่วแต่ละช่องของสะพานจะมีตลอดแนวสะพานนั้นถูกประดับด้วยภาพเขียนอายุเก่าแก่กว่า 400 ปี ที่บอกเล่าถึงประวัติของประเทศแห่งนี้เป็นจำนวนมาก จนปัจจุบันสะพานแห่งนี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญต่อประวัติศาสตร์ของเมืองลูเซิร์นอีกด้วย  โดยสะพานไม้แห่งนี้เคยถูกไฟไหม้เสียหายอย่างหนักเมื่อ ค.ศ. 1993 ซึ่ง ณ ปัจจุบันยังเหลือร่องรอยไฟไหม้บางส่วน แต่ก็ได้รับการบูรณะจนสวยงามดั่งเดิมอีกครั้ง และกลายเป็นสัญลักษณ์ของลูเซิร์นตราบจนทุกวันนี้

                อนุสาวรีย์สิงโต (Lion Monument) เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองไม่ไกลจากสะพานไม้ชาเปลนัก ออกแบบและแกะสลักโดยธอร์ วอลเส้น ใช้เวลาแกะสลักอยู่ราว 2 ปี ตั้งแต่ค.ศ.1819-1821 เป็นอนุสาวรีย์ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความกล้าหาญ ซื่อสัตย์และเสียสละ เพื่อยกย่องทหารสวิสซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวลูเซิร์นที่เสียชีวิตจากการปกป้องพระราชวังตุยเลอลีสในฝรั่งเศสจากเหตุการณ์ปฏิวัติฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ค.ศ.1792 ในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 อนุสาวรีย์รูปสิงโตทำจากหินแกะสลักบนหน้าผา ที่หัวของสิงโตจะมีโล่ประทับรอยกากบาท อันเป็นสัญลักษณ์ของธงชาติของสวิสเซอร์แลนด์อยู่ รูปปั้นสิงโตอยู่ในลักษณะนอนหมอบ มีหอกปักอยู่กลางหลัง สีหน้าแสดงความเจ็บปวดและเศร้าสร้อย เพราะถูกข้าศึกทำร้าย
 

     นักท่องเที่ยวอย่างเราๆเมื่อไปเที่ยวต่างแดนครั้งแรกหรือเพียงไม่กี่ครั้ง ก็คงยังไม่มี “เซ็นส์”หรือ “เชี่ยว” มากพอที่จะรู้ได้อย่างลึกซึ้งว่า ไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวอย่างเราๆไม่ควรพลาดที่จะได้ “สัมผัส” หรือ “ลอง”มีอะไรบ้าง เพื่อให้คุณได้สัมผัสกลิ่นอายวัฒนธรรมและตัวตนของผู้คนท้องถิ่นได้อย่างเต็มที่ สำหรับประเทศญี่ปุ่นก้เช่นกัน มีวัฒนธรรมและตัวตนแบบญี่ปุ่นๆที่นักท่องเที่ยวน่าจะได้ลองสัมผัสดูบ้าง เพื่อการทัวร์ญี่ปุ่นของคุณคุ้มค่าและ “ฟิน” มากกว่าการไปท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวดังๆเท่านั้น แล้วคนญี่ปุ่นเขาฟินเรื่องอะไรกันบ้าง เราลองไป “ฟิน” กัน

• ข้ามถนนอย่างราชา ในญี่ปุ่น ระหว่างคนเดินถนนกับคนขับรถใครใหญ่กว่ากัน...บอกได้เลยว่าคนเดินถนน ไม่ว่าคุณจะข้ามทางม้าลายตามระเบียบ หรือข้ามถนนตามใจฉัน คนขับรถก็จะหยุดรถให้คุณข้ามอย่างสะดวกโยธินทันที ไม่มีแอบซิ่งหนีไปให้พ้นๆเด็ดขาด แถมยังก้มหัวให้เราประหนึ่งกำลังกล่าวเชิญให้เราข้ามถนนตามสบายเลย แหม เหมาะกับบ้านเราอย่างยิ่ง!    - หลับปุ๋ยในรถไฟ ลักษณาการขับเคลื่อนด้วยจังหวะพอดีๆเหมือนเด็กทารกนอนในเปลให้แม่ไกวของรถไฟญี่ปุ่น ทำให้ผู้โดยสารเคลิ้มหลับได้ง่ายดายมากๆ ยิ่งรถไฟญี่ปุ่นที่วิ่งเร็วและเงียบ ได้มาตรฐานสุดๆด้วยแล้ว ก็ยิ่งน่านอนเข้าไปใหญ่ แต่มีสองสิ่งที่ควรระวัง หนึ่งคืออย่าหลับเพิลจนนั่งรถเลยป้าย และสองคือระวังโดนแอบแชะภาพระหว่างที่กำลังหลับปุ๋ย
• แชะๆในตู้ถ่ายสติ๊กเกอร์ ที่จริงบ้านเราก็มีตู้ถ่ายสติ๊กเกอร์เหมือนกัน แต่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไร แต่คนญี่ปุ่นเค้าชอบกันนัก เอาน่า…คนไทยก็บ้ากล้องอยู่แล้ว จะลองบ้าตู้สักหน่อยจะเป็นไรไป  รูปที่ถ่ายได้จะดูเป็นอนิเมะแบบ 3 มิติ ตาโตแบบแบ๊วๆ หน้าขาวนวลเว่อร์เหมือนตุ๊กตาบลายธ์ และมีออร่าเปล่งประกายปิ๊งๆด้วยนิดๆ ดูมีกิมมิกและไม่ต้องพึ่งแอ๊ปหรือโฟโต้ช็อปให้เสียเวลา!